เที่ยวฮาโกดาเตะ 1 วัน อยากหยุดเวลาเที่ยวจริงๆ เป็นอีกหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ยอดนิยมในแถบฮอกไกโด บรรยากาศกลางแจ้งที่นี่ มีวิวที่สวยมากๆ และมีย่านอาคารทางประวัติศาสตร์มากมาย ซึ่งได้รับอิทธิพลจากตะวันตกซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในเสน่ห์ของเมืองนี้ ทริปนี้เราเดินทางจากโตเกียวนั่งรถไฟ HOKKAIDO SHINKANSEN : HAYABUSA ประมาณ 4 ชม.ก็มาถึงเมืองนี้
เนินถนนย่านโมโตะมาจิ
เป็นจุดที่คนนิยมมาถ่ายรูป เนื่องจากเรียงรายไปด้วยอาคารต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์และมีภูมิทัศน์อันหลากหลาย ที่สำคัญเป็นฉากในภาพยนตร์แฟนเดย์ด้วย การเดินเที่ยวในเมืองฮาโกดาเตะ นิยมใช้รถรางเป็นหลักเพราะมีเครือข่ายที่วางเอาไว้เป็นอย่างดีตลอดทั้งเมือง และที่ชอบมากๆคือ เส้นทางรถรางจะพาเรา ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแทบทุกจุดเลย
การเริ่มการท่องเที่ยวตั้งแต่เช้าตรู่ เราเดินทางในช่วงเดือนธันวาคม สภาพอากาศต้องบอกเลยว่าหนาวแต่โชคดีที่มีแสงแดดออกเป็นระยะๆ ที่พักอยู่ใกล้กับตลาดเช้าเลยเดินไปหาอาหารเช้ากินกันที่ ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ
ฮาโกดาเตะ อาสะอิจิ(ตลาดเช้า)
มีร้านค้ากว่า280ร้าน เริ่มเปิดขายแต่เช้าตรู่ตั้งแต่เวลาตีห้า (หกโมงเช้าหากเป็นฤดูหนาว) และปิดเวลาเที่ยง มีพื้นที่ประมาณ 4 ช่วงตึก เดินเข้าบริเวณตรงกลางตลาดก็มาสะดุดตา เห็นนักท่องเที่ยวยืนล้อมวงกันจำนวนมาก ขอเดินเข้าไปดูซะหน่อยว่ามันคืออะไร!
มันคือ บ่อตกปลาหมึกด้วยตัวเองเพื่อนำมาปรุงเป็นอาหารนั่นเอง ตลาดเช้าแห่งนี้ได้คิดไอเดียขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เพียงแค่ให้ไม้หนึ่งอันที่มีเบ็ดเกี่ยวอยู่ตรงปลาย แล้วก็ทดสอบฝีมือกันเลย เมื่อใครจับได้แล้ว เชฟจะเอาปลาหมึกนั้นมาทำ ซาชิมิปลาหมึกให้กินกันสุดๆไปเลย ราคาประมาณ พันกว่าเยน แต่ถูกอกถูกใจนักเที่ยวโดยเฉพาะชอบจีน แต่งานนี้เราขอชมเฉยๆพอ
นอกจากนั้นยังมีอาหารทะเลอีกมากมายให้เราได้เดินดูและเดินชิมตลอดทางในตลาดแห่งนี้ ราคาไม่แพง เช่น ปูคานิ ไข่ปลาแซลม่อน และหอยเม่นทะเล พร้อมทั้งผลไม้ต่างๆ บริเวณใกล้เคียงมีร้านอาหารหลายร้าน
ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ Hakodate Morning Market
เวลาเปิด-ปิด: เปิดตั้งแต่ 5:00-12:00 (ฤดูหนาว เปิด 6:00) วันปิดทำการ: เปิดทุกวัน วิธีการเดินทาง ใกล้กับสถานีรถไฟ JR Hakodate Station เดินไปทางขวา แล้วข้ามถนนไป 1 บล็อก
หลังจากกินอาหารเช้าที่ตลาดแล้ว ก็ถึงเวลาตะลุยเที่ยวในเมืองฮาโกดาเตะ เดินทางเที่ยวด้วยรถรางสะดวกมากๆ ข้อแนะนำอย่าลืมหยิบแผนที่ ที่สถานนีรถไฟ หรือที่โรงแรมมา เพราะจะบอกจุดท่องเที่ยว ที่จะลงของสถานีรถรางต่างๆ ทั่วทั้งเมือง ซึ่งจะมีอยู่ด้วยกัน 2 สายหลักๆคือสาย 2 และ 5 ง่ายมากๆ ไม่เคยมาก็สบาย สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่
เมืองฮาโกดาเตะมีย่านอาคารทางประวัติศาสตร์มากมาย ซึ่งได้รับอิทธิพลจากตะวันตก มีอายุเก่าแก่มากกว่าหนึ่ง ศตวรรษ ที่เราเห็นคือ ศาลาประชาคมเก่าของฮาโกดาเตะ ที่ถูกกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ ภายในมีหอประชุมใหญ่ตระการตาและห้องต่างๆ เสียค่าเข้าชม ประมาณ 300 เยน อีก 1 สิ่งที่ได้ถูกกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญมากมาย โบสถ์ออร์โธดอกซ์ในญี่ปุ่น ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1859 โดยสถานกงสุลรัสเซีย
หอคอยโกเรียวคาคุ
เราเดินทางต่อไปที่ หอคอยโกเรียวคาคุสามารถขึ้นไปชมด้านบนได้ มีจุดชมวิวซึ่งสามารถมองเห็นวิวในมุมกว้างของป้อมปราการรูปดาวอันสวยงาม ขึ้นไปด้านบนแล้ว จะเห็น ป้อมปราการรูปดาวขนาดใหญ่
เวลาผ่านไปเร็วมากๆ ฟ้าเริ่มมืดแล้ว เพราะเราไปในช่วงเดือนธันวาคมตรงกับวันคริสต์มาส พอดี สถานที่เราไปต่อ คือ ท่าเรือฮาโกดาเตะ บริเวณริมอ่าวเป็นที่ตั้งของโกดังอิฐแดงคาเนโมริ
โกดังอิฐแดงคาเนโมริ
โกดังอิฐซึ่งสร้างขึ้นในปี 1909 ได้รับการบูรณะใหม่ทั้งหมด ในช่วงวันวันคริสต์มาส ที่นี้จะถูกประดับไฟ และ ต้นคริสต์มาสใหญ่ โชคดีสุดๆค่ะ ที่มาช่วงนี้
ภายใน โกดังทั้งเจ็ดหลังนี้มีร้านอาหารและร้านของที่ระลึกต่างๆ ตั้งอยู่ประมาณ 50 ร้าน ให้เลือกกินและช้อปเสียงระฆังดังแล้วหมดเวลา เวลาไม่พอจริงๆ เลยไม่ได้พาเข้าไปชมด้านใน ไว้มีโอกาสจะพามาชมอีก
เราต้องรีบเดินทางมาต่อ ถือเป็น ไฮไลท์ คือ จุดชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะ
จุดชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะ
ต้องต่อคิวขึ้นกระเช้า สาเหตุที่ต้องมาชมวิวตอนกลางคืน เพราะเขายกให้ที่นี่ มีวิวกลางคืนสวยเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากฮ่องกงและเมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี จะจริงหรือเปล่าต้องขึ้นไปดู
ขึ้นมาแล้วคุ้มจริงๆ เห็นเมืองฮาโกดาเตะ ได้ทั้งเมือง สังเกตดีๆ เมืองที่ถูกประกบด้วยน้ำทะเลสีฟ้าเข้มทั้งสองด้าน จนทำให้ดูเหมือนเป็นรูปนาฬิกาทรายขนาดใหญ่เลย ฟ้ามืดเร็วมาก แต่นักท่องเที่ยวก็มากันเยอะ ต้องรอคิวถ่ายรูปพอสมควร แถมอากาศเย็นมากๆ
ใครทนอากาศหนาวไม่ไหวก็มานั่งชมวิวด้านใน สำหรับการเดินทางมาขึ้นไปบนยอดเขาฮาโกดาเตะ สามารถขึ้นได้ 3 ทางก็คือ 1.เดินป่า อันนี้ต้องช่วงฤดูร้อนหรือใบไม้ผลิ 2.นั่งรถและ 3.ขึ้นกระเช้า Ropeway แต่วิธีที่แนะนำก็คือ ขึ้นกระเช้า Ropeway เพราะนอกจากจะสะดวกสบายแล้วยังสามารถชมวิวสวยๆอีก
จบทริปที่ฮาโกดาเตะแล้ว บอกตรงๆว่า อยากมีเวลามากกว่านี้ เพราะเราต้องเดินทางไปต่ออีก แต่ก็ได้เที่ยวแบบนี้ซักครั้งในชีวิต ยังไงก็คุ้ม ไว้เจอกันทริปต่อไปนะคะ
ข้อมูลเพิ่มเติม การท่องเที่ยวฮาโกดาเตะ